ตอนไปร่วมงาน wordcamp bangkok 2018 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 นั้น ผมตั้งใจสมัครไปครั้งแรก อาจจะดูเก้อเขินในการไปทำความรู้จักคนอื่นๆ ปกติแล้วผมก็เป็นซะอย่างนี้ เราไม่กล้าไปแนะนำตัวเองให้คนอื่นรู้จัก นอกเสียจากว่า คนอื่นมาทักเราก่อน
นิสัยแบบนี้ผมเองก็รู้ตัวดี พอตอนเจอสถานการณ์จริง ก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกันครับไม่รู้เพราะจะแก้อย่างไรดี หรือหาหนังสือเล่มไหนมาอ่าน เพื่อทำตามสเต็ป หนึ่ง สอง สาม แล้วประสบผบสำเร็จ
ผมคุ้นเคยกับคนที่เป็น staff ในงานอยู่หลายคน เพราะเป็นคนที่ผมติดตามผลงานของพวกเขา พอเอาเข้าจริงก็ไม่กล้าแม้จะถ่ายรูปครับ เป็นความรู้สึกเซ็งๆ อยู่เหมือนกัน
ความรู้สึกแบบนี้ไม่รู้ว่ามีคนเป็นเหมือนผมไหมก็ไม่รู้ แต่ตัวเองนี้เป็นครับ เวลาเราเจอดารา หรือคนที่ชอบ เราไม่กล้าเข้าไปทักทาย หรือพูด เพราะกลัวว่าจะพูดไม่ออก หรือไม่มีอะไรจะพูดกับเขา ความคิดมันตันไปหมด หรือที่เรียกว่า ประหม่านั่นเองครับ
ตอนกินเข้า มีน้องสองคนมาขอนั่งกินด้วย แต่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกัน แต่พอมีอีกคนมานั่งด้วย พวกเขาต่างไม่รู้จักกัน แต่พูดคุยกันเหมือนสนิทสนมกันเลย ซึ่งเขาไม่มีท่าทีว่าจะมาคุยกับเราเลย ถ้าจะเอ่ยทักไปในกลางวง ก็คงจะเขินอยู่ไม่น้อย กินเสร็จก็เลยเดินออกมาให้พวกเขานั่งคุยกันต่อตามสบายใจเลย
ถามว่าเป็นแบบนี้มันดีไหม ตอบเลยว่า ไม่ดีแน่ แต่แก้ไม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้น เราก็คงไม่ต้องการอะไรมากมาย เพราะถ้ามีคนพูดกับเรา เราก็คงจะพูดตอบและสนทนากับเขาได้ปกติครับ
ประสบการณ์ที่ได้จากในงานก็หลากหลาย รับรู้เลยว่า พวกเขาเก่งกันจริงๆ ยิ่งภาษานะ หลายคนพูดคล่องมากกับภาษาอังกฤษ เราคงต้องฝึกกันอีกยาว และหนักกว่าเดิมเพราะเราฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการพูด ซึ่งห่วยมาก
เอาหละ ที่เขียนบทความนี้ก็อยากจะสรุป นิสัยเสียๆ ของตัวเองที่แก้ไม่ได้สักทีอันนี้แหละว่า เป็นข้อเสียของตัวเองที่รู้แต่แก้ไม่ได้สักที หลายครั้งแล้วสังเกตตัวเองได้ คนอื่นไม่รู้เป็นเหมือนกันป่าวนะ ว่างๆ ก็แวะมาเล่าให้ฟังหน่อยจิ