ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผมสอนวิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา ในอำเภอแห่งหนึ่งครับ สิ่งที่ผมสังเกตได้จากการสอนของตนเอง คือ ความเข้มข้นของเนื้อหาที่เราใส่ให้เด็กเริ่มจะถดถอยลงเรื่อยๆ เป็นเพราะอะไร
จำความได้ว่าตอนมาแรกๆ ใส่เต็มที่ครับ สอนเอาเป็นเอาตาย นักเรียนเข้าใจหรือไม่ ไม่รู้ แต่ตอนนั้นจบใหม่ความรู้ยังแน่น ไฟแรง เลยจัดเต็ม นักเรียนก็ active ตามนะ ส่วนใหญ่ทำโจทย์ได้ ทำการบ้านได้ เมื่อเทียบกับตอนนี้หละ?
โรงเรียนอื่นๆ อาจมีความแตกต่างกันไปหรืออย่างไรผมก็ไม่รู้ แต่เท่าที่รู้คือ นักเรียนโรงเรียนนี้ทำไมพื้นฐานอ่อนลงเรื่อยๆ
เมื่อพื้นน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อผมใส่เต็มที่ ยิ่งสอนก็ยิ่งเหนื่อยครับ
เหนื่อยมากจริงๆ
ทุกสิ่งล้วนมีการปรับตัวเสมอ เมื่อเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ผมก็พยายามลดมาตรฐานลง สอนสิ่งที่ง่ายๆ เนื้อหาง่ายๆ โจทย์ง่ายๆ ถ้ามีโจทย์ที่ผมทำได้อยู่ 10 ระดับ ตอนนี้ผมสอนที่ระดับ 2-4 ครับดูเหมือนมันน้อยเหลือเกิน
บางทีเราคาดหวังในตัวเด็กมากเกินไปก็ไม่ดีครับ ผมเคยเป็น คาดหวังว่าห้องนี้จะเก่ง ทันเราหมด พอสอนไป เด็กส่วนใหญ่ไม่ได้เลย พอวัดผลเป็นรายคนจริงๆ พื้นฐานด้านคณิตศาสตร์แทบเป็นศูนย์ อันนี้เหนื่อยจริงๆ
การสอนในปัจจุบันเป็นแบบนี้ครับ การบ้านจะให้น้อยที่สุด พอจดบนกระดานยาวไปเด็กจะบ่น เราก็ทนไม่ได้ อีกอย่างเพราะผมมองว่าการให้การบ้านในปัจจุบันเป็นเหมือนการให้งานเด็กไป “ลอกกัน” ดีๆนี่เอง เพราะจะมีต้นฉบับจากใครสักคน ส่งไลน์ หรือเฟส ให้กัน แล้วลอกๆ กันมา ผมเคยจับผิดโดยตรวจละเอียดประมาณ 10 เล่มแรก มีถึง 8 เล่มที่เหมือนกันเด๊ะๆ สังเกตง่ายๆ ตรงที่มันผิดครับ มันจะผิดที่เดียวกัน ถ้าทำเองมันจะต้องผิดหลายๆที่ อันนี้สังเกตง่ายมากๆ
อนาคตข้างหน้าเด็กไทยจะเป็นเช่นไร ผมไม่อยากจินตนาการครับ เพราะระบบเหมือนมันจะรวนไปหมดแล้วตอนนี้ มันยากที่จะกลับมาเหมือนเดิมแล้วครับ หลายๆหลักสูตรดูเหมือนจะไม่เกิดประโยชน์อะไร การประเมินก็เหมือนจะเป็นงานเอกสารซะส่วนใหญ่ที่เห็นเป็นตัวตนจริงๆ คงยาก
ถึงอย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นครูน้อยคนหนึ่ง ผมก็จะพยายามให้เต็มความสามารถของตนเอง แม้ว่าจะสอนเนื้อหาง่ายๆ แต่จะพยายามให้มีคุณภาพมากที่สุด สอนแบบเน้นๆดีกว่า เอาแบบว่าให้เด็กเข้าใจคอนเซปง่ายๆให้ได้ก่อน แม้ไม่มีพื้นฐานก็จะพยายามให้เต็มที่ แต่ก็ยังมีนักเรียนบางคนที่มาถามโจทย์ยากอยู่ ก็ถือว่ายังโชคดีแม้ว่าเปอร์เซ็นจะน้อยลงเรื่อยๆ แต่ไม่ถึงกับหมดไปซะทีเดียว
บทความนี้คงไม่ใช่เป็นการบ่น “ว่าเด็กโง่” หรือ “ครูสอนไม่ดี” มันมีปัจจัยที่มากกว่านั้น ที่น่าคิด เพราะเด็กที่เก่งก็มีเยอะแยะครับ
คงเป็นเพราะยุคสมัยนี้ เด็กอาจจะสมาธิสั้นลง เด็กความอดทนน้อยลง เด็กใส่ใจน้อยลง มีสิ่งยั่วยุมากขึ้น ทั้งเกม สื่อต่างๆ โดยเฉพาะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเท่าฝ่ามือ ที่เด็กใช้อาจไม่ได้ให้ประโยชน์ต่อเขาเลย เนื่องจากเขาไม่รู้วิธีใช้ให้เกิดประโยชน์นั่นเอง
สังคมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ยุคโชเชียลจะมาแรงแค่ไหน แต่เราก็ยังโหยหาสิ่งเดิมๆ อยู่ดีคับ เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงยุคให้กลับไปเหมือนเดิมได้ แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนตัวเราเอง ให้เข้ากับยุค อย่างพอเหมาะ ไม่หลงจนเกินไป แต่ก็ไม่ให้หลุดจนเกินควร ใช้ชีวิตให้พอดี และปรับสภาพให้ได้เหมือน “กะปอม” เปลี่ยนสี ชีวิตเราก็จะมีความสุขครับ
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.