บทความนี้ผมเขียนวันหวยออก เป็นวันที่หลายคนมีความหวังและสมหวัง แต่ก็มีอีกหลายคนที่ผิดหวังเช่นกัน
บทความนี้ก็คงขอเขียนถึงบุคคลหนึ่งที่ผมเรียกว่าท่านว่า “พ่อ”
พ่อผมมีอายุมากแล้วครับ ตอนนี้อายุกว่า 60 แล้ว สุขภาพก็ย่อมเสื่อมถอยไปตามสภาพคนแก่ ยิ่งไม่ค่อยรักษาสุขภาพเท่าไรก็ยิ่งสังเกตได้เลยว่าแกไอเยอะขึ้นกว่าเดิม
สาเหตุของการไอน่าจะมาจากการ “สูบบุหรี่” เพราะแกเป็นคนสูบบุหรี่เยอะมาก ผมและแม่ห้ามเท่าไรก็ไม่ยอมฟัง เป็นยาสูบที่ต้องมวนเองมีขายตามบ้านนอก สมัยเด็กๆ มียี่ห้อหนึ่งชื่อ”พยานาค”
พ่อผมป่วยตั้งแต่ผมยังเด็ก สาเหตุการป่วยอาจจะแปลกๆ คือ ก่อนหน้าเป็นคนขยันทำมาหากินมากๆ มีอาชีพสีข้าว รับจ้างสีข้าวจากคนในหมู่บ้าน ปกติพ่อเป็นคนประหยัด จะซื้อของก็กระเหม็ดกระแหม่เหลือเกิน วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ถูกโกงเงินจากการขายหมูประมาณ 3 หมื่นบาท ทำให้ชีวิตและชุดความคิด ทัศนคติเปลี่ยนเป็นคนละคน มีอาการที่เขาเรียกว่าเป็นโรคประสาทตั้งแต่ผมยังเล็กๆ
คนที่เป็นเสาหลักของครอบครัวจึงเป็นแม่ แม่ขยันหาเงินมาก แม่จบชั้น ป.4 ต้องใช้แรงงาน รับจ้างและหาของป่ามาแลกเป็นเงินเพื่อส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรีได้ ถือว่า แม่เป็นหญิงเหล็กคนหนึ่งเลย
อาการของพ่อก็ดีๆ ทรุดๆ สลับไป อาการคือ การไม่ยอมทำงาน ซื้อของทุกอย่างที่อยากได้ โดยเฉพาะของกินและขนม จะซื้อกินเหมือนเด็กๆ เลย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่มาก
ปัญหา คือ บางครั้งแม่จะด่าพ่อแรงๆ และเกิดการทะเลาะกันอยู่บ่อย เนื่องจากพ่อไม่ยอมกินยาจากหมอก็มีอาการกำเริบ พูดคนเดียว หัวเราะอยู่คนเดียว จนเพื่อนๆ บางคนเรียกผมว่า “ลูกผีบ้า” และนั่นก็เป็นปมในใจของผมมาตลอดให้ขยันตั้งใจเรียนแทนที่จะคิดมากเรื่องพ่อ
ครอบครัวของผมต่อสู้กับความจนเรื่อยมา จนกระทั่งผมเรียนจบ ทำงานที่ต่างจังหวัดหลายปี ผมยืมเงินก้อนหนึ่งไปสร้างบ้านใหม่ให้ท่านทั้งสอง จากนั้นก็แต่งงานและมีลูกน้อย
ตอนนี้อาการของพ่อดีขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่ยอมทำงาน เนื่องจากอายุมากแล้วอาจจะมีผลจาการสูบบุหรี่หลายปี ทำให้ไอบ่อยขึ้น และเคี้ยวอาหารลำบากเพราะไม่มีฟัน
ผมเอาลูกมาให้ท่านช่วยเลี้ยงที่บ้านนาแต้ เหตุเพราะไม่มีคนเลี้ยงช่วย จะหาพี่เลี้ยงก็ไม่ไว้ใจ ส่งศูนย์อนามัยแม่และเด็กก็กลัวลูกติดไข้ โดยเฉพาะช่วงนี้ covid-19 ระบาดหนัก ถ้าจะฝากลูกกับยาย แต่ยายก็จำเป็นต้องเลี้ยงหลานอีกหลายคน ทำให้เหลือ ปู่ กับ ย่า ที่อยู่บ้านเพียงสองคนน่าจะสะดวกที่สุด ถ้าลูกพร้อมจะเข้าโรงเรียนแล้วคิดว่าจะเอาไปเข้าโรงเรียนที่ขอนแก่นต่อไป
เรื่องพ่อของผมยังไม่จบนะครับ ปกติพ่อของผมจะไม่ทำกับข้าว เพราะเป็นแม่ทำมาตลอด เมื่อคืนวาน แม่ไปทำบุญที่วัด และต้องนั่งภาวนาสวดมนต์ตลอดคืน
ผมซื้อเห็ดมาจากตลาดคลองถมใกล้บ้าน กะว่าจะมานึ่ง พ่อผมอาสาว่าจะจัดการให้ โดยการนึ่งข้าวไว้ก่อนแล้ว
พ่อทำครัวโดยจัดการปลาช่อนสองตัว และคลุกเกลือเพื่อนึ่งใส่กับเห็ด ขั้นตอนถัดมา พ่อตำน้ำพริกด้วยพริกสดแล้วเก็บชีหอมที่ริมรั้วมาใส่
แต่ด้วยน้ำพริกขาดมะนาว แกก็เดินออกไปซื้อมะนาวร้านค้าแถวบ้านมาแล้วก็มาใส่น้ำพริก
นี่เป็นความใส่ใจที่พ่อผมทำให้ ผมไม่เคยเห็นแกทำมาก่อน ไม่คิดว่าวันนี้จะได้กินกับข้าวฝีมือพ่อ
รสชาติใช้ได้ครับ นึ่งเห็ดใส่ปลาช่อนพร้อมน้ำพริก ผมกินกับข้าวมื้อนี้อย่างอร่อย
และพ่อผมไม่ยอมกินด้วยเพราะปกติแกจะไม่ค่อยกินข้าวเย็น ทำเสร็จเอามาวางให้แล้วบอกว่ากินเลยเด้อ พ่อไม่กิน
เป็นความห่วงใจจากพ่อคนหนึ่งแม้จะสติไม่ค่อยดี แต่ก็ทำเพื่อลูก ผมรู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจลึกๆ ว่าพ่อผมยังห่วงใยลูกขนาดนี้นะ ความเป็นพ่อลูกของเราไม่เคยหายไปไหนจริงๆครับ
จบบทความนี้จากภาพกับข้าวฝีมือพ่อผมเองครับ อร่อยมากจริงๆนะ มากินด้วยกันสิครับ
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.