สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รัก วันนี้ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์สักเล็กน้อยเผื่อผู้ที่อยากเริ่มต้นคิดอยากขายของออนไลน์ ยุคสมัยนี้ดูเหมือนว่าการสั่งของออนไลน์มันจะง่ายไปซะทุกอย่าง บางคนสั่งสินค้าออนไลน์กันหลายชิ้นต่อเดือน เมื่อก่อนคนมักจะกลัวการสั่งสินค้าออนไลน์ เพราะไม่เห็นสินค้าบ้าง กลัวโดนโกงบ้าง ปัจจุบันก็ยังมีการโกงอยู่นะครับไม่ใช่ว่าไม่โกง เพียงแต่ว่าเราไม่เจอ ถ้าเราเจอราคาน้อยหน่อยก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเจอแบบราคาแพงเป็นหมื่นคงจะเข็ดกันไปอีกนาน เผลอๆ อาจเลิกสั่งสินค้าออนไลน์ไปเลยก็ได้ ใช่ไหมครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบการสั่งสินค้าออนไลน์ ถ้าเป็นสินค้าที่ผมไม่รีบด่วนซื้อ ส่วนใหญ่ผมจะสั่งออนไลน์ เหตุผลคือสะดวก ได้เลือกเยอะ และจ่ายเงินง่าย ส่งถึงที่ แค่นี้ก็นับว่ามีเหตุผลมากพอแล้วใช่ไหมละครับ แต่ก่อนจะซื้อก็ต้องอ่านคุณสมบัติก่อน ถ้าเว็บเขาดีจริง จะมีคนเข้าเยอะ ตอบคำถามเร็ว และเว็บดูน่าเชื่อถือ
และหนึ่งในนั้นผมก็เป็นทั้งคนขายด้วยครับ เพราะผมเริ่มทำขายของออนไลน์มาได้สักพัก ตอนเริ่มแรกผมก็ไม่รู้จะเริ่มต้นทำอย่างไร แค่อ่านบทความไปเรื่อยๆก่อน ยังไม่เข้าใจเรื่องการตลาดอะไรพวกนี้จนปัจจุบันก็ยอมรับยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ
คนที่กำลังเริ่มต้นคงกำลังคิดว่า “หาอะไรมาขายดี” ใช่ไหมครับ มันเกิดขึ้นกับทุกคนที่เริ่มจะขายของอยู่แล้ว แต่ผมคิดว่าข้อนี้ผมค่อนข้างเคลียร์ตัวเองได้พอสมควรแล้วนะครับ สินค้าที่ผมขาย จะเป็นพวกเมมมอรี่การ์ด และแฟลชไดร์ฟครับ ตอนแรกก็คิดว่าจะขายได้หรอ มีคนห้ามเยอะครับ และผมก็รู้ว่ามีคนขายเยอะด้วย แต่ผมก็ยังดื้อทำ
ผมมาเข้าใจตอนหลัง หลังจากได้ดูคอร์สออนไลน์อันหนึ่งจากคุณพอล พรพรหม กฤดากร เจ้าของเว็บ http://www.ceoblog.co ที่บอกไว้ว่า สินค้าที่มีอยู่บนโลก มันขายได้หมด อยู่ที่ว่ามันจะถูกจริตกับคุณหรือไม่ ผมฟังคอร์สนี้หลายรอบมากครับ ผมชอบเปิดในรถเวลาเดินทางไกลๆ จึงสรุปเป็นไอเดียได้ว่า ถ้าคุณคิดจะขายอะไร ก็ขายได้หมดละครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้ เพราะของบนโลกนี้มีมากมาย ถ้าเราเจาะกลุ่มเป้าหมายถูกย่อมมีคนมาซื้อเราแน่นอนครับ
แล้วทีนี้จะไปหาสินค้ามาจากไหน ก็เป็นอีกคำถามหนึ่งที่คนเริ่มต้นมักจะถามกัน บางคนก็แนะนำว่าไปหาโรงงานเลย จะได้ถูกๆ จริงครับไปหาที่โรงงานเลย แล้วโรงงานเหล่านั้นอยู่ที่ไหนละ หลักๆที่ผมคิดได้และขายอยู่ตอนนี้ก็คือ ประเทศจีน ครับ ในประเทศจีนมีโรงงานมากมายจนคุณนับไม่ถ้วนก็แล้วกัน ผมไม่เคยไปครับ พูดภาษาจีนไม่ได้ด้วย แต่ลองใช้ google map ค้นหาดูเมือง shenzhen มันเป็นเมืองอุตสหกรรมที่ใหญ่มากจริงๆ แต่ละวันเขาผลิตสิ้นค้าไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนชิ้นต่อวัน มันทำให้เรามีกำลังใจขึ้นนะว่า อยากเอาสินค้าพวกนั้นแหละมาขายลองดู
การจะติดต่อโรงงานในจีนแต่ก่อนอาจจะยาก แต่ปัจจุบันมีคนเขียนหนังสือสอนการนำเข้า ส่งออกมากมายหลายเจ้า ผมคิดว่าอ่านเจ้าไหนก็ดีเหมือนๆกันหมดแหละครับ พอได้ไอเดีย แล้วเราก็ลงมือทำกันเลย ถ้าอ่านอย่างเดียวแล้วไม่กล้า ยังเกรงๆอยู่ ปล่อยไปสักพักคุณก็หมดไฟแล้วครับ เชื่อผม อ่านแล้วจัดมันเลย เดี๋ยวมันจะมีทางต่อไปให้เราเอง
จะว่าไปการสั่งสินค้าเข้ามาขาย เว็บเจ้าใหญ่ที่สุดก็คงหนีไม่พ้น alibaba.com ครับ ผมก็เริ่มต้นจากที่นี่เหมือนกัน ลองเข้าไปค้นหาสินค้าที่นั่น ใส่ keyword เป็นภาษาอังกฤษนะครับ แล้วติดต่อเข้าไปเลย อ่านจากหนังสือสักเล่มสองเล่มจะพอมีแนวทาง และมองเห็นทางหนีทีไล่ได้พอสมควรครับ ส่วนตัวผมนั้น อ่านจากเล่มเดียวจัดเลย โดนไปเต็มๆ 2 หมื่นกว่าบาท แต่มันนานแล้วครับ ผมแทบจะจำไม่ค่อยได้แล้วว่าโดนโกง ชนิดแบบว่า ส่งของมาแต่เป็นของปลอมครับ แต่ก็เป็นประสบการณ์ ถ้าเราไม่โดนบ้างก็ถือว่าโชคดีไป ผมก็ทำๆ อยุดๆ อยู่หลายครั้งเพราะกำไรน้อยบ้าง สินค้าไม่ดีบ้าง เจอลูกค้าเบี้ยวบ้าง ก็จะมาถึงจุดๆนี้ก็อาศัยความอดทนอยู่เหมือนกัน มันต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆครับ ไม่มีสูตรตายตัว ถ้าใครลองทำจะรู้เอง ถ้าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มันก็คงจะเห็นผลเข้าสักวันแหละครับ
ปัจจุบันถามว่า ผมมีรายได้จากการขายของออนไลน์มากมายแค่ไหน ขนาดผมทำมาประมาณ 2 ปี แต่ก็ยังไม่ได้ร่ำรวยหรอกนะครับ แต่หนทางนี้มันก็สนุกขึ้นเรื่อยๆ เวลาขายได้เราก็มีความสุข เวลาเกิดปัญหาก็หาทางแก้กันไป กำไรไม่มากเพราะเรามันทุนน้อยครับ ค่อยๆเก็บเล็กผสมน้อยไป เดี๋ยวมันก็โตสักวัน ผมคิดว่ามันมีทางไปต่ออีกเยอะสำหรับผม ถ้าเปรียบเทียบกับเดินขึ้นภูกระดึง สำหรับผมตอนนี้ก็คงถึงแค่ ซำแฮก
การขายของออนไลน์ของผมจะเป็นขายส่งนะครับ ผมลืมบอกไป ตอนแรกผมกะจะขายปลีกนั่นแหละ แต่ตอบคำถามลูกค้าไม่ทัน เพราะผมมีงานประจำอยู่ อันที่จริง ระบบผมยังไม่ดีพอ ผมจึงเลือกจะขายส่งแฟลชไดร์ฟ แต่จุดขายของผมคือ มันจะทำโลโก้ใส่เข้าไปได้ด้วย มีแพกเกจอย่างดี และสวยงาม ที่สำคัญมันไม่ใช่ของปลอมครับ มันใช้งานได้ดีทีเดียว
ผมขายบนเว็บเป็นหลักนะครับ ทำเว็บจาก WordPress ง่ายๆก่อน แล้วค่อยทะยอยปล่อยบทความที่ให้ความรู้บ้าง และก็โพสต์สินค้าใหม่ๆบ้าง จากนั้นตอนแรกสุดลงทุนไปกับ Facebook Ads ประมาณพันกว่าบาท แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำโฆษณาอีกเลยครับ แต่ก็มีคนสนใจสอบถามเรื่อยๆนะครับ และผมก็ไม่ได้รีบร้อนขาย เพราะไม่ได้ลงทุนอะไรมากมายครับ ถ้ามีคนสั่งสินค้าเข้ามา จ่ายเงินแล้วผมค่อยไปสั่งที่โรงงานและจัดการทุกอย่างให้เสร็จ หลังจากส่งของแล้ว ค่อยรับเงินส่วนที่เหลือจากลูกค้าครับ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมัดจำครับ เพราะเป็นเงินจำนวนมาก
สำหรับใครที่คิดจะขายสินค้าอะไรสักอย่าง จะขายปลีกหรือส่งก็แล้วแต่ ผมแนะนำอย่างนี้ครับ
1. สร้างเว็บง่ายๆ เป็นหลักเอาไว้
2. ลงโฆษณากับ facebook page ตอนแรกเพื่อให้คนรู้ว่าเราขายอะไร
3. โพสสิ่งที่เป็นประโยชน์ บทความบทเว็บของท่าน และส่งไปยัง facebook page
4. ตอบคำถามให้เร็วที่สุด และพูดคำสุภาพ
5. จะเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็ตามเวลาขายสินค้า ให้หาทางแก้ โดยให้ลูกค้าเสียหายน้อยที่สุด
6. ขยันทำเรื่อยๆ แม้ตอนแรกจะขายไม่ได้ ถ้าคุณไม่อยุดเสียก่อน สินค้าชิ้นแรก ถ้ามันดีจริง ต้องมีคนซื้อครับ
7. พยายามอย่าขายของปลอม หรือเอากำไรเกินควร เพราะนั่นจะทำให้เกิดปัญหาตามมาเยอะแยะ
8. ทดลอง และก็ทดลองไปเรื่อยๆครับ ถ้าคุณสนุกกับมันยิ่งดีครับ ลองทำแล้วสังเกต ทำแล้วสังเกตไปเรื่อยๆ
สุดท้าย ขออวยพรเนื่องในปีใหม่นี้ขอให้ทุกท่านจะสำเร็จดังที่คาดหวังไว้นะครับ ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้แล้ว กลับไปลงมือทำจนสำเร็จ ก็อย่าลืมอีเมลมาบอกผมด้วยนะครับ ผมจะดีใจเป็นอย่างมากที่เป็นส่วนหนึ่งกับจุดเริ่มต้นของคุณ
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.