บทความนี้ผมเขียนขึ้นเมื่อสงกรานต์ ของปี 2562 เป็นช่วงหนึ่งที่ได้กลับไปบ้านเกิดของตัวเอง หลังจากที่จากมาไกลและอาศัยอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นจนกระทั่งมาทำงานอยู่ที่นี่
เส้นทางการเดินทางของชีวิต ก็เป็นอีกเส้นทางที่ผมคาดเดาอะไรได้ยากมาก เพราะเราไม่เคยวางแผนมาอยู่ที่นี่ ไม่คิดว่าจะมาอยู่ขอนแก่นนานขนาดนี้ จากที่เรียนตอนปริญญาตรีเสร็จก็คิดว่าจะกลับมาที่สกลนคร แต่ชีวิตก็หักเห เมื่อพบรักและได้อยู่ร่วมกันที่ขอนแก่น จึงเป็นการยากที่จะได้มาอยู่ที่สกลนคร เพราะตอนนี้ผมก็เป็นคนขอนแก่นไปแล้วสักครึ่งหนึ่งของชีวิต นับเวลาแล้วตั้งแต่ปี 2547 ถึงปี 2562 นับแล้วก็เป็น 16 ปี
วันนี้ก็เลยอยากมาหวนนึกถึงอดีตก่อน 16 ปีก่อนว่าผมเคยเป็นอยู่อย่างไร นั่นก็คือช่วงชีวิตวัยเรียน วัยทีน หรือวัยเด็กของผมนั่นเองครับ
ผมเป็นลูกคนเดียว ตอนเด็กชอบออกหากิน หมายถึง การหาปู หาปลา โดยเฉพาะการจับสัตว์เพื่อมาทำอาหาร ผมทำมาแทบทุกอย่างแล้ว สมัยนั้นผมไม่คิดว่าจะเป็นเด็กเรียนรู้แต่ว่าแม่ให้เรียนหนังสือที่โรงเรียนในหมู่บ้าน ตกเย็นจะต้องรีบออกไปหาอาหาร จับปู จับปลากับเพื่อนๆ ละแวกบ้าน เสาร์อาทิตย์ก็ไม่วาย จะต้องออกไปหาอยู่หากินตามประสาเด็ก ๆ การไปจับสัตว์เหล่านั้นก็เพื่อมาทำเป็นอาหาร ถ้าได้เยอะก็กักเก็บไว้เช่น การทำปลาร้า การตากแห้ง เป็นต้น
สิ่งมีชีวิตที่เคยไปจับมาได้ จะขอไล่เรียงไปดังนี้แล้วกันครับ มีปลาเกือบทุกชนิด ปู กุ้ง หนูนา หนูพุก (หนูตัวใหญ่) นกคุ่ม จักจั่น กบ เขียด กะปอม เบ้า แมงจีนูน แมงดา ปลาไหล แมงแคง แมลงทับ เต่า แย้ บึ้ง จะเห็นว่า แต่ก่อนมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากโดยเฉพาะปลาเป็นสัตว์ที่ผมออกไปหามาบ่อยมาก และชอบกินมาก ๆ ด้วย
ถ้าเป็นตอนนี้ให้ผมออกไปหาอีกคงไม่ไหว เพราะนอกจะสัตว์เหล่านั้นจะหายากขึ้นแล้ว ผมก็ลืมวิชาการหากินพวกนั้นไปเกือบหมดแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเด็ก ๆ ผมจะชอบหากินอะไรปานนั้น ทุก ๆวันจะต้องออกไปหาอาหารมาได้สักหนึ่งหรือสองอย่างทุก ๆ วัน กลายเป็นว่าเงินทองไม่มีก็ได้ เพราะเราสามารถหาอาหารเหล่านี้กินแทนไม่จำเป็นต้องซื้อเลยก็ได้
การหาสัตว์แต่ละชนิดนั้นจำเป็นต้องเข้าไปหาตามป่าเขา แม่น้ำ หรือท้องทุ่งนา และจำเป็นต้องมีอุปกรณ์หรือกับดักเพื่อล่อสัตว์เหล่านั้น เรียกง่ายๆ ว่าผมเคยเป็นนายพรานน้อยมาก่อนก็ว่าได้ อุปกรณ์แต่ละชนิดส่วนใหญ่จะผลิตเองจากไม้ไผ่ หรืออุปกรณ์ที่หาได้จากท้องถิ่น และก็จะแตกต่างกันไป เช่น ปลา มีอุปกรณ์ที่จะไปจับปลาหลายชนิดมาก แล้วแต่ฤดูกาลและสถานที่ ผมจะขอยกตัวอย่างสักหนึ่งอย่างที่เคยหมุกหมุ่นทำมันมาก่อน นั่นคือ จั่น
จั่น เป็นอุปกรณ์จับปลาชนิดหนึ่ง จะว่าไปแล้วก็เป็นการจับปลาที่ไม่ควรทำเท่าไหร่นักเพราะเราจะไปจับเอาตอนที่มันกำลังจะวางไข่ สัตว์จำพวกปลาช่อน ปลาดุกที่พร้อมจะวางไข่มันจะหาที่วางไขบริเวณน้ำตื่นประมาณเท่าเข่าของเราได้ มีพงหญ้าสักหน่อย เราจะเอาจั่นที่ผลิตขึ้นจากไม้ตีเป็นกล่องสีเหลี่ยมผืนผ้าและมีกลไกเป็นเชือกขึงอยู่ในกลางกล่องไม้นั้น เมื่อปลาเข้าไปเพื่อที่จะวางไข่ในนั้น มันจะว่ายไปชนกับเชือกที่ขึงอยู่แล้วจะดึงสลักออกทำให้ฝาหน้าที่ค้างอยู่หลุดลงมาปิดกล่องไว้อัตโนมัติ ทำให้ปลาว่ายออกไม่ได้้ เมื่อเราเอากล่องขึ้นจากน้ำแล้วเราก็สามารถจับเอาปลาเพื่อเอาไปทำกินได้นั่นเอง
เหตุที่ว่าไม่ควรทำก็คือว่า ปลาที่กำลังจะวางไข่ เราไปจับมาเสียก่อน ทำให้จำนวนปลาก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ นั่นเองเราควรจะอนุรักษ์ปลาฤดูวางไข่ด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นผมยังเด็กมาก รู้เท่าไม่ถึงการณ์และด้วยความคึกคะนองผมก็สร้างจั่นขึ้นมาจำนวนมากและนำไปใส่ได้ปลามาจำนวนมากเช่นกันครับ นึกๆ ย้อนกลับไปแล้วก็เสียใจเหมือนกันครับ เมื่อกลับมาบ้านที่เป็นแหล่งที่เราเคยอยู่ เป็นแหล่งที่เคยทำมาหากินแบบบ้านๆ เรียกว่าหาอยู่ หากินนั่นแหละผมก็อดคิดถึงแต่ก่อนไม่ได้ ได้ลองมองย้อนดูแล้ว ชีวิตก็เปลี่ยนไปเยอะมากๆ เหมือนกัน เติบโตขึ้น ไม่คิดว่าจะได้เขียนบล็อกเล่าเรื่องราวของตัวเองแบบนี้ ไม่คิดว่าจะได้มาเป็นครูคณิตศาสตร์และทำเว็บไซต์ ไม่คิดว่าจะมีหน้าที่การงานมั่นคง ไม่คิดว่าจะได้มีภรรยา และมีลูกตัวเล็ก ๆ นี่เราก็เดินทางมาไกลมากแล้วนะ ในขณะที่ตอนเด็กๆ ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมาไกลขนาดนี้ ก็แค่หาปลาไปเรื่อย ๆ หาปลาให้ได้ทุก ๆ วัน แต่สำหรับวันนี้มันไม่เหมือนเดิม ปลาที่มีอยู่ในหนองน้ำก็น้อยลงไปทุกทีแทบจะไม่มี ในตลาดส่วนใหญ่เป็นเป็นปลาเลี้ยง ดังนั้นแล้วช่วงชีวิตเปลี่ยนไปเราก็ต้องปรับไปตามนั้น ดำรงชีวิตตามยุคสมัยกันไป เสียดายจริง ๆ สมัยเด็ก ๆ ไม่มี facebook ไม่งั้นผมจะถ่ายเซลฟี่กับจั่นสักตัวมาให้ดูกัน แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นความทรงจำจางๆ ที่เราเคยทำ ผมจึงวาดสเก็ตรูปภาพ จั่น ของผมออกมาให้ดูกันครับ แล้วคุณล่ะ ตอนเด็ก ๆ คุณทำอะไรกันบ้างเล่าให้ผมฟังหน่อยก็ดีนะครับ
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.