ผมเริ่มขายของออนไลน์ ประมาณปี 2557-2558 ผมจำคร่าวๆ ได้ว่า ช่วงนั้นผมอยากจะขายอะไรสักอย่าง ผมจึงเริ่มศึกษาช่องทางทำมาหากินเพิ่มเติมจากอาชีพรับราชการ ด้วยความที่ชอบคอมพิวเตอร์มีทักษะพอได้บ้าง ผมจึงอยากจะใช้ความรู้ตรงนี้มาหารายได้ ช่วงแรกก็ไม่รู้จะขายอะไรดี
มันเริ่มมาได้อย่างไร
ผมเริ่มอย่างนี้ครับ ผมเริ่มจากการหยิบจับหนังสือมาอ่าน เริ่มจากเดินเข้าไปใน se-ed แล้วค้นดูว่า จะเริ่มขายของอะไร ตอนนัั้นผมพอมีความรู้เรื่องทำเว็บอยู่บ้าง เพราะทำงานให้กับโรงเรียนก็ทำเว็บไซต์โรงเรียน
เมื่ออ่านไปเจอเล่มหนึ่ง เกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกออนไลน์ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะนำเข้าอะไรดี หรือจะส่งออกอะไรได้ 555+ ความรู้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากๆ ครับ
ในหนังสือมีแนะนำให้ไปหาของจากเว็บไซต์ alibaba.com ตอนนั้นผมไม่รู้จัก แจ็คหม่า ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นเจ้าของเว็บไซต์นี้ เมื่อเข้าไปแล้ว ผมก็ลองคลิกๆ ดูก็น่าสนใจดี เห็นมีแฟลชไดร์ฟโพล่มา เลยคิดในใจว่า ของชิ้นเล็กๆ เรื่องขนส่งก็น่าจะสะดวกดีนะ และเราก็ชอบใช้ด้วยไอ้แฟลชไดร์ฟนี่แหละ
ตัดสินใจสั่งของจากเว็บ alibaba มาครับ ผลปรากฏว่า ได้ของปลอมมาในงวดแรก สูญเงินไปประมาณ 25000 บาท เอามาขายตอนแรกก็ขายดีมาก แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นของปลอม ตอนหลังๆ ก็เลยโดนลูกค้าด่าตรึมเลยครับ รีบไปเก็บเอาของคืน คืนเงินลูกค้า และช้ำใจอยู่นานพอสมควร เข้าไปจะเคลมสินค้า แต่เขาปิดเว็บของ supplier ไปเสียก่อน เลยเสียค่าโง่เลย
จากนั้นผมก็ค้นหาสินค้าแฟลชไดร์ฟอีกหลายๆ เจ้าครับ ส่งใบขอเสนอราคาไปหลายคน เป็นสิบเลยล่ะตอนนั้น เขาก็ตอบกันมาเยอะมากนะ ผมก็สั่งซื้อเจ้าละ 10-20 ชิ้นเข้ามาลองดูก่อน อันนี้ขั้นตอนการเคลียร์ภาษีไม่ของอธิบายแล้วกันครับ เพราะตอนแรกค่อนข้างยากอยู่พอสมควร
เมื่อแน่ใจว่าแฟลชไดร์ฟของเจ้าไหนใช้ได้ดีแล้ว ก็สั่งเข้ามาเยอะเลยครับคราวนี้ ตอนแรกผมก็ทำเว็บไซต์ขายนะครับ พยายามไปโพสต์ตาม pantip market, เว็บขอนแก่นลิงค์ หรือเว็บต่างๆ ที่เข้าจะให้ขาย ก็ไปโพสต์หมดแหละ รวมทั้งทำเว็บไซต์ขายของตัวเองด้วยจาก wordpress นี่แหละครับ
จำได้ว่าทำตอนแรก โคตรหมดกำลังใจเลย เพราะมันขายไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ทำไม ของเราก็ดีนะแต่เราอาจจะขายแพงขึ้นหน่อยเพราะมันมาแพงไง เราเลือกเจ้าที่ขายของจริงมา รู้เลยว่าทำไม เหตุผลคือ มันแพงเท่าๆ กับร้านค้าทั่วไปขายไงครับ เราเลยสู้เขาไม่ได้ และเรายังทำการตลาดไม่เป็นเลยตอนนั้น
อธิบายมาซะนาน ให้ดูของก่อนดีกว่า ว่าของล็อตแรกที่เป็นของแท้ของผมที่เอามาขาย แต่ขายยากมาก คือตัวไหน 555+ มันคือแฟลชไดร์ฟยี่ห้อ kingston ครับ ตอนนั้นผมแทบจะหมดกำลังใจ จนตัดสินใจไปขายถนนคนเดินขอนแก่นได้ 2 วันมาแล้ว มาเขียนบทความก็รู้สึกตลกๆ ตัวเองยังไงไม่รู้นะ เพราะตอนนี้ไม่ได้ขายสินค้าพวกนี้แล้วครับ
นอกจากนั้นผมยังได้ประดิษฐ์กล่องสำหรับถ่ายรูป เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม (รึเปล่า) โดยศึกษาแนวทางจาก เว็บ pantip การประดิษฐ์กล่องถ่ายรูป DIY ผมก็ลองมาประยุกต์กับกล่องกระดาษ A4 ดู เป็นความประทับใจมากๆ ตอนนั้นนะครับ ยังจำได้ดี
และนี่ก็เป็นอีกประสบการณ์ของผมครับ วันนี้ผมไม่ได้ขายสินค้าตัวนี้แล้ว แต่ยังคงเป็นแฟลชไดร์ฟอยู่ บนเว็บไซต์ของผม www.flashdrivedd.com ที่ลูกค้าสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ได้เองด้วยครับ วันนี้เจอภาพเก่าๆ เลยขุดเอามาฝากกันครับ ว่าครั้งหนึ่งเราเริ่มต้นมาแบบนี้แหละครับ
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.