ปีนี้มีความแตกต่างครับ
เข้าค่ายปีนี้แตกต่างจากเดิม คือ ม1-ม2-ม3 เข้าค่ายแบบแยกกันครับ
ทุกๆ ปีจะเข้าค่ายรวมกันหมด และทำเป็นฐานใหญ่ๆ ไปเลย เด็กจะได้พักแรม 3 วัน 2 คืน
แต่ปีนี้ เปลี่ยน
ม1 เดินทางไกล และประกอบอาหาร ทำ 1 วัน
ม2 โดดหอสูง ซึ่งไปอีกวันหนึ่ง
ม3 ไปเข้าค่ายพักแรม ที่เขื่อนลำปาว
ปกติแล้วจะได้เป็นวิทยากร ในแคมป์ไฟ แต่ปีนี้ผมเป็นผู้กำกับลูกเสือ ม1 ฉะนั้นก็เลยทำแค่การเดินทางไกล และประกอบอาหารเสร็จใน 1 วัน
การเป็นแม่งานในครั้งนี้ และอยู่เบื้องหลังหลายๆ อย่างคงยกให้พี่มีชัย พี่ละมุลครับ ส่วนพวกเราก็รอช่วยเหลือกัน
ผมเตรียมช่วยงานนิดหน่อย เช่น การไปพิมพ์เอกสาร และเตรียมกลองเอาไว้ใช้ในงาน
ตอนแรกจะได้ไปประจำฐานบันเทิง ในการเดินทางไกล ไปๆ มาๆ ได้อยู่กองอำนวยการเพื่อปล่อยเด็ก ช่วยพี่ละมุลในการสันทนาการเด็ก
พี่ละมุนเป็นคนที่มีพรสรรค์เรื่องการสันทนาการกับเด็ก สามารถพูดกับเด็กได้เรื่อยๆ ซึ่งผิดกับผม ที่ไม่ค่อยจะสันทัดเรื่องนี้เท่าไร แต่ก็ทำได้เป็นบางโอกาส เอาจริงๆ ผมพยายามอยู่หลายครั้ง แต่มันไม่สำเร็จสักที ก็เลยคิดว่าคงไม่ใช่พรสรรค์ของผมแน่ๆ
วันนี้ผมช่วยตีกลองครับ ปกติจะเป็นน้องอ๋อ แต่ปีนี้อ๋อไม่อยู่ย้ายไปแก่นนคร เราก็เลยต้องทำเอง
สนุกครับ สนุก แม้จะใช้เวลาไม่นาน แต่เราได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ และมีเสียงหัวเราะ เราก็มีความสุขแล้ว
จริงๆ เราต้องเตรียมเกม เตรียมเพลง ให้เข้าขากันดีๆ ก่อน แต่อันนี้เราอาศัยครับ อาศัยด้นสด เราก็เข้ากันได้ 555+ อยู่กับพี่มุลมาหลายปี ส่วนใหญ่เราก็จะทำพวกบันเทิง สันทนาการ เล่นเกม อะไรพวกนี้แหละ เราชอบ และเข้าขากันดี แม้ว่าจะร้องเพลงกันไปคนละคีย์ก็ตาม
ปกติผมก็ร้องเพลงไม่ค่อยจะได้นะ แต่มีปีหนึ่ง ผมฟังเพลงลูกเสือทุกวัน ฟังวันละหลายๆ รอบ ฟังบนรถขณะขับรถและร้องตามไปด้วย ไปๆ มาๆ เป็นร้องได้ตั้งหลายเพลงเลยครับ ทำนองมันก็แค่ 3 ช่า กับ รำวง ไม่มีอะไรมาก บางเพลงท่าประกอบก็ตามเนื้อเพลง ไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็เลยพอได้เพลงไปร้องกับพี่มุลบ้าง เวลาเราทำแคมป์ไฟคืนสุดท้าย จะเป็นไคล์แมกซ์เลยละ
ลูกเสือ ม1 ปีนี้น่ารัก ใสๆ แต่ทำกับข้าวเป็นนะ
บางหมู่ทำได้อร่อยมาก นัวร์เวอร์เลยละ
แค่ทักษะการก่อไฟ ถ้าทำได้ ก็ถือว่าโอเคแล้ว ผมเดินดูการประกอบอาหารของเด็กๆ แล้วก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ มันใสๆ มาก นึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ ก็ได้ประกอบอาหารกิน ส่วนใหญ่ก็คือต้มไก่ หรือการต้มมาม่า
เมื่อลูกเสือทำอาหารเสร็จ ก็จะเอามาตรวจ บรรยากาศนี้น่าจดจำมากครับ เมื่อเด็กตักอาหารมาเต็มถ้วย ทุกๆ คน ก็จะมาลุ้นช่วยกันว่า จะอร่อยไหม เมื่อผู้กำกับ ผมกับพี่มุล หมิว หรือผู้กำกับคนอื่นลองชิมดู ก็จะบอกว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร มันโอเคไหม เมื่อเด็กได้ยินว่ามันอร่อย ดูสีหน้าเขาจะดีใจ และมียิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย (พี่มุลบอกนะ) หลายหมู่ทำอาหารได้อร่อยมาก รสชาติดีมาก เราก็ให้ 100 เต็ม ส่วนหมู่ไหนยังไม่ค่อยโอเค เราก็ปลอบใจว่าอร่อย แต่มันยังขาดหวานไปนิด มันเค็มไปหน่อย อะไรแบบนี้
ทั้งที่รู้ว่าบางอันมันไม่อร่อยเลย แต่เราก็อดทนชิมไป แล้วก็บอกว่าอร่อย 555+ สวมบทบาทครูจริงๆเลย
จนกระทั่งบ่าย 3 โมงก็ปิดกอง แล้วกลับบ้าน โดยไม่มีการพักแรมแต่อย่างไร ส่วนชั้นมออื่นๆ บรรยากาศเป็นอย่างไรน้อ จะมีครูคนไหนเขียนไว้ให้อ่านมั้ยน้า…
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.