ผมได้รับข่าวจากเพื่อนครูที่ปรึกษาร่วม ชื่อ พี่แจ๋มเมื่อเช้า ว่าพ่อของนักเรียนในที่ปรึกษาคนหนึ่งเสียแล้วเมื่อวาน โดยกระทันหัน ยังไม่ทันตั้งตัว พี่แจ๋มชวนผมไปเคารพศพ ผมจึงรีบตอบตกลงและไปด้วยกัน
เราไปถึงงานศพพร้อมพวงหรีด 2 พวง โดยเดินทางไปร่วมงาน 4 คนเป็นครูตัวแทนจากห้องเรียนพิเศษอีก 2 คนหลังจากที่จุดธูปกราบศพแล้ว ก็ได้ถามไถ่สาเหตุ และอาการของพ่อเด็ก
พ่อของเด็กนักเรียนเพิ่งอายุ 50 ปีแต่ด่วนจากไปเสียแล้ว เป็นความโชคร้ายที่ครอบครัวต้องสูญเสียเสาหลักไปโดยไม่ทันตั้งตัว
พ่อของเด็กวางแผนไว้หลายเรื่อง โดยเฉพาะเส้นทางการทำอาชีพ อยากให้ลูกได้เดินตามทางที่วางไว้ เป็นวิศวกรโยธาเหมือนตน
แม้ว่าลูกจะเป็นหญิง แต่เขาชอบงานวิศวกรโยธาเหมือนกันพ่อของเขา เขาจึงตัดสินใจจะเรียนต่อสายที่พ่อวางไว้ให้
การป่วยของพ่อเป็นมาสักระยะแล้ว เหมือนมีสัญญาณบางอย่างบอกไว้ แต่การจากไป ณ ขณะลูกเพิ่งจบ ม.6 เป็นอะไรที่ยากจะอธิบาย โดยเฉพาะการจากไปของเสาหลักของครอบครัวเช่นนี้
ผมมาเขียนเรื่องนี้ไว้ เพื่อเตือนตนว่า วันใดก็วันหนึ่ง ก็จะเป็นวันของเราเช่นเขา เราไม่อาจหลบหนีกฎธรรมชาติข้อนี้ไปได้กันทุกคน
ณ ขณะที่เราอยู่กับครอบครัววันนี้ ขณะที่มีลมหายใจทั้งเขาและเรา ขอให้เรารักเขาให้มากๆ ตอบแทนคุณของเขา พูดดีต่อกัน เราจะไม่ได้เสียใจมากหากวันนั้นมาถึง และต้องไม่ลืมว่า ทุกชั่วขณะ ลมหายใจของเราก็ค่อยๆ หมดไปตามวันที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.