วันนี้จะมานินทาเด็กข้างห้องครับ
ผมพักในทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น ด้านข้างๆ จะมีทาวน์เฮาส์ที่อยู่ติดกัน ใช้ผนังเดียวกันเดียวกันเพื่อกั้นแต่ละบ้าน เมื่อใช้ผนังเดียวกัน ทำให้ได้ยินเสียงบ้านข้างๆ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการที่ห้องข้างๆ พูดเสียงดัง เช่น การตะคอก หรือตะโกน
แต่ก่อนห้องข้างๆ ไม่มีคนอยู่มาหลายปีแล้ว แต่มาปีนี้มีครอบครัวหนึ่ง พร้อมเด็กประมาณ 3 คนย้ายมาอยู่ใหม่
เด็กคนโตอายุราว 10 ขวบ กลางประมาณ 5 ขวบ และเด็กเล็กสุดท้ายราว 1-2 ขวบ
แม่ของเด็กรูปร่างตัวเล็ก และผมคาดว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะตั้งแต่ย้ายมายังไม่เห็นมีผู้ชายที่คล้ายจะเป็นพ่อเดินเข้ามาในบ้านหลังนี้เลย ผมก็เลยคิดไปเองว่า น่าจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ถึงกระนั้นผมก็ไม่กล้าจะถามเขาตรงๆ
เช่นเดิม วันนี้ เด็กชายคนโตของบ้าน เดินออกมานอกบ้าน พร้อมกับทักทายผม สวัสดีครับ รับเหมือนน้ำเต้าหู้ไหมครับ
ผมพยักหน้ารับพร้อมตอบว่า ครับผม
ใช่แล้วครับ ครอบครัวนี้น่าจะหารายได้เสริมจากการขายน้ำเต้าหู้ เริ่มธุรกิจเมื่อเดือนก่อนครับ ทุกเช้าจะมีลูกค้าคนแรกน่าจะเป็นผมนี่แหละ
ผมชอบกินน้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล และภรรยาผมก็จะกินด้วย บางครั้งกินไม่หมด เราก็แช่เย็นไว้กินตอนเหนื่อยๆ ก็อร่อยดี
แต่ก่อนผมจะมีร้านน้ำเต้าหู้ประจำหน้าวัดแห่งหนึ่ง แต่ตอนนี้ได้อุดหนุนบ้านข้างๆ กันก็สะดวกดีครับ รสชาตก็ถือว่าโอเคครับ
สิ่งที่ผมอดสงสัยไม่ได้คือ เด็กทั้งสามคน ก็น่ารัก ครอบครัวก็ดูสุขสันต์ดี แต่สิ่งที่ทำให้ผมเคลือบแคลงใจและไม่กล้าถามคือ
ทำไม มีเสียงด่าเด็กเหล่านี้แรงๆ ทุกวัน
ใช่ครับ ผมได้ยินเสียงตะคอกด่าอย่างแรงผ่านกำแพงบ้านทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องซักผ้า ตากผ้า หรือเก็บข้าวของ
ผมไม่แน่ใจว่า เป็นวิถีการเลี้ยงของหญิงสาววัยกลางคนคนนั้น หรือเป็นโรคบางอย่างของเธอกันแน่ เพราะบางครั้งก็ดูจะโหดร้าย
แต่กระนั้นเด็กๆ เหล่านั้นก็ไม่ได้มีรอยแผลฟกช้ำ หรือสีหน้าม่นหมองแต่อย่างไรครับ ก็ดูร่าเริงดี
ผมเคยฟัง podcast ของคุณบอย วิสูตร เคยบอกว่า การด่าลูกเหมือนคำสาปที่อาจจะติดตัวเด็กไปจนโต และไม่มีวันหายไปจากเขาได้เลย
ผมเพิ่งมีลูกได้ 8 เดือน กำลังคิดอยู่ว่า ผมจะเลี้ยงลูกแบบไหน เพื่อให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตได้
ทำไมการด่าเด็กๆ ทุกวันที่ได้ฟังนี้ ยังทำเด็กเป็นคนขยัน และน่ารัก ทักทายด้วยสวัสดีทุกๆ ครั้งที่เจอ มันช่างขัดแย้งกับความรู้สึกผมเหลือเกิน
แต่ก็ไม่ต้องการวิพากย์วิจารณ์ หรือเสนอแนะแต่อย่างไรครับ เพราะลูกของเขา เขามีสิทธิ์เลี้ยงดูอย่างไรก็ได้ เราไม่ควรไปก้าวก่ายกับการเลี้ยงดู แค่ดูห่างๆ ถ้าเขามีความสุขดีแล้วก็เป็นเรื่องดีซะอีก อีกอย่างการได้ยินเสียงด่าเป็นประจำทุกวัน ก็ไม่ได้ทำความรำคาญอะไรมากกับเรา แค่ฟังๆ แล้วก็ปล่อยผ่านไป
สิ่งที่อยากทิ้งท้ายไว้คือ ชีวิตเด็กคนหนึ่ง การเลี้ยงดูของแต่ละคนแตกต่างกัน ที่เรียกว่าความแตกต่างระหว่างบุคคล เราก็เข้าใจตรงนี้ ไม่มีใครทำอะไรถูกใจเราทั้งหมด และไม่มีใครทำขัดใจเราทั้งหมดเช่นกัน มันก็ย่อมมีผสมปนเปกันไป ที่เรียกมนุษย์ว่า คน นั่นแหละครับ
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.