เกณฑ์ E1/E2 คืออะไร?
E1/E2 เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ใช้วัดประสิทธิภาพของนวัตกรรมหรือสื่อการเรียนการสอนในงานวิจัยทางการศึกษา ซึ่งพัฒนาโดย รศ.ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ นักการศึกษาชาวไทย เกณฑ์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการวิจัยการศึกษาของไทย โดยเฉพาะในการประเมินประสิทธิภาพของสื่อการเรียนการสอน ชุดการเรียนรู้ หรือนวัตกรรมทางการศึกษาต่างๆ
เกณฑ์ E1/E2 แบ่งการวัดประสิทธิภาพออกเป็น 2 ส่วนหลัก:
E1: ประสิทธิภาพของกระบวนการ (Process)
E1 เป็นค่าที่แสดงประสิทธิภาพของกระบวนการหรือประสิทธิภาพของบทเรียนในระหว่างการเรียนการสอน โดยวัดจากคะแนนแบบฝึกหัด กิจกรรม หรือแบบทดสอบย่อยที่นักเรียนทำระหว่างเรียน
E2: ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (Product)
E2 เป็นค่าที่แสดงประสิทธิภาพของผลลัพธ์หลังการเรียนการสอน โดยวัดจากคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนหรือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอน
วิธีการคำนวณค่า E1/E2
การคำนวณค่า E1/E2 มีขั้นตอนดังนี้:
สูตรการคำนวณค่า E1
E1 = (คะแนนรวมระหว่างเรียนของนักเรียนทั้งหมด / จำนวนนักเรียน) / คะแนนเต็ม × 100
สูตรการคำนวณค่า E2
E2 = (คะแนนรวมหลังเรียนของนักเรียนทั้งหมด / จำนวนนักเรียน) / คะแนนเต็ม × 100
ตัวอย่างการคำนวณค่า E1/E2
สมมติว่าเรามีข้อมูลดังนี้:
- นักเรียน 10 คน
- คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดระหว่างเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน คือ 20 คะแนน
คนที่ | คะแนนระหว่างเรียน (20) | คะแนนหลังเรียน (20) |
---|---|---|
1 | 15 | 16 |
2 | 14 | 17 |
3 | 16 | 18 |
4 | 15 | 17 |
5 | 17 | 19 |
6 | 16 | 18 |
7 | 14 | 16 |
8 | 16 | 18 |
9 | 15 | 17 |
10 | 16 | 18 |
รวม | 154 | 174 |
เฉลี่ย | 15.4 | 17.4 |
คำนวณค่า E1
E1 = (154 / 10) / 20 × 100
E1 = 15.4 / 20 × 100
E1 = 0.77 × 100
E1 = 77
คำนวณค่า E2
E2 = (174 / 10) / 20 × 100
E2 = 17.4 / 20 × 100
E2 = 0.87 × 100
E2 = 87
จากการคำนวณ เราได้ค่า E1/E2 = 77/87
การแปลความหมายของค่า E1/E2
เกณฑ์มาตรฐานที่นิยมใช้ในการประเมินประสิทธิภาพคือ E1/E2 = 80/80 ซึ่งหมายความว่า:
- E1 = 80 หมายถึง นักเรียนทั้งหมดสามารถทำคะแนนเฉลี่ยจากแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมระหว่างเรียนได้ร้อยละ 80 ของคะแนนทั้งหมด
- E2 = 80 หมายถึง นักเรียนทั้งหมดสามารถทำคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบหลังเรียนได้ร้อยละ 80 ของคะแนนทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เกณฑ์นี้อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมาย เช่น:
- เนื้อหาที่เป็นความรู้ความจำ อาจใช้เกณฑ์ E1/E2 = 90/90
- เนื้อหาที่เป็นทักษะ อาจใช้เกณฑ์ E1/E2 = 80/80
- เนื้อหาที่ยากหรือซับซ้อน อาจใช้เกณฑ์ E1/E2 = 75/75 หรือ 70/70
ความสำคัญของ E1/E2 ในงานวิจัยทางการศึกษา
การใช้เกณฑ์ E1/E2 ในงานวิจัยทางการศึกษามีความสำคัญหลายประการ:
- เป็นตัวชี้วัดคุณภาพ ของสื่อ นวัตกรรม หรือรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
- สร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับผลงานวิจัย โดยมีเกณฑ์มาตรฐานที่ยอมรับในวงกว้าง
- ช่วยในการตัดสินใจ ว่านวัตกรรมหรือสื่อการสอนที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะนำไปใช้จริงหรือไม่
- สะท้อนให้เห็นพัฒนาการ ของผู้เรียนตั้งแต่ระหว่างเรียนจนถึงสิ้นสุดการเรียน
ข้อควรระวังในการใช้เกณฑ์ E1/E2
แม้ว่าเกณฑ์ E1/E2 จะเป็นที่นิยมในงานวิจัยทางการศึกษา แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้:
- ไม่ควรยึดถือเกณฑ์ตายตัว เกินไป เพราะบริบทของเนื้อหาและผู้เรียนแต่ละกลุ่มแตกต่างกัน
- ควรพิจารณาปัจจัยอื่นประกอบ เช่น ความยากง่ายของเนื้อหา ระดับความสามารถของผู้เรียน และระยะเวลาในการเรียน
- การเก็บข้อมูลต้องมีความน่าเชื่อถือ โดยใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพในการวัดและประเมินผล
- ค่า E1 และ E2 ไม่ควรแตกต่างกันมากเกินไป หากแตกต่างกันมาก อาจต้องทบทวนกระบวนการหรือเครื่องมือที่ใช้
สรุป
เกณฑ์ E1/E2 เป็นเครื่องมือสำคัญในการวัดประสิทธิภาพของนวัตกรรมทางการศึกษา ช่วยให้นักวิจัยสามารถประเมินคุณภาพของสื่อหรือรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นได้อย่างเป็นระบบ การเข้าใจวิธีการคำนวณและการแปลความหมายของค่า E1/E2 จะช่วยให้นักวิจัยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานวิจัยได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ E1/E2
1. E1/E2 แตกต่างจากการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียนอย่างไร?
E1/E2 เน้นการวัดประสิทธิภาพของสื่อหรือนวัตกรรม โดย E1 วัดจากคะแนนระหว่างเรียน และ E2 วัดจากคะแนนหลังเรียน ส่วนการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียนมักใช้เพื่อวัดพัฒนาการของผู้เรียน โดยเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน
2. ถ้าค่า E1/E2 ไม่ถึงเกณฑ์ 80/80 จะทำอย่างไร?
หากค่า E1/E2 ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด นักวิจัยควรวิเคราะห์สาเหตุและปรับปรุงนวัตกรรมหรือสื่อการสอน อาจต้องทบทวนความยากง่ายของเนื้อหา วิธีการนำเสนอ หรือกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
3. สามารถใช้เกณฑ์อื่นนอกจาก 80/80 ได้หรือไม่?
ได้ เกณฑ์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมาย เช่น 75/75 หรือ 90/90 แต่ควรมีการอธิบายเหตุผลในการเลือกใช้เกณฑ์นั้นๆ ในงานวิจัยด้วย
4. จำเป็นต้องใช้เกณฑ์ E1/E2 ในทุกงานวิจัยทางการศึกษาหรือไม่?
ไม่จำเป็น การใช้เกณฑ์ E1/E2 เหมาะสำหรับงานวิจัยที่เน้นการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของสื่อหรือนวัตกรรมการเรียนการสอน สำหรับงานวิจัยประเภทอื่น อาจใช้เกณฑ์หรือวิธีการประเมินที่แตกต่างกันไป
บริการรับคำนวณค่า E1/E2 ในราคาย่อมเยา ติดต่อที่ไลน์ @krujakkrapong
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.