บทนำ
การวิจัยและพัฒนาทางการศึกษาในปัจจุบันจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำและเป็นระบบในการกำหนดความต้องการจำเป็น เพื่อให้การพัฒนาตอบสนองต่อปัญหาที่แท้จริงและมีประสิทธิภาพสูงสุด วิธีการประเมินความต้องการจำเป็นจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักวิจัยและนักพัฒนาต้องเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้
วิธีการประเมินความต้องการจำเป็น
1. วิธี Priority Needs Index (PNI)
PNI = (I – D) × I
วิธี PNI เป็นการเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นโดยใช้หลักการนิยามความแตกต่างเช่นเดียวกับ Mean Difference Method (MDF) แต่ได้ปรับปรุงโดยการถ่วงน้ำหนักของผลต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของ I (Importance – สภาพที่ควรจะเป็น) และ D (Degree of Success – สภาพที่เป็นจริง) ด้วยน้ำหนักความสำคัญของ I
2. วิธี Modified Priority Needs Index (PNImodified)
PNImodified = (I – D) / D
วิธี PNImodified เป็นสูตรที่ปรับปรุงจากสูตร PNI ดั้งเดิม โดยนงลักษณ์ วิรัชชัย และสุวิมล ว่องวาณิช พัฒนาขึ้น เป็นวิธีการหาค่าผลต่างของ (I – D) แล้วหารด้วยค่า D เพื่อควบคุมขนาดของความต้องการจำเป็นให้อยู่ในพิสัยที่ไม่มีช่วงกว้างมากเกินไป และให้ความหมายเชิงเปรียบเทียบเมื่อใช้ระดับของสภาพที่เป็นอยู่เป็นฐานในการคำนวณ
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้
กรณีศึกษา: การพัฒนาหลักสูตรส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู
จากการศึกษาพบว่าครูมีปัญหาในการวิจัยในชั้นเรียน นักวิจัยจึงต้องการพัฒนาหลักสูตรโดยการสำรวจความต้องการจำเป็นใน 7 ประเด็น ได้แก่:
- การระบุปัญหาและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
- การทบทวนวรรณกรรม
- นวัตกรรมทางการศึกษา
- เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
- การวิเคราะห์ข้อมูล
- การสรุปผลการวิจัย
- การเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน
ผลการวิเคราะห์ด้วยวิธี PNI

จากการวิเคราะห์ด้วยวิธี PNI พบว่า:
อันดับความสำคัญ:
- นวัตกรรมทางการศึกษา (PNI = 11.24)
- การระบุปัญหาและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา (PNI = 5.80)
- การเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน (PNI = 5.44)
- เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล (PNI = 5.37)
- การสรุปผลการวิจัย (PNI = 5.23)
- การวิเคราะห์ข้อมูล (PNI = 4.97)
- การทบทวนวรรณกรรม (PNI = 3.04)
ผลการวิเคราะห์ด้วยวิธี PNImodified

เมื่อวิเคราะห์ด้วยวิธี PNImodified พบว่าลำดับความสำคัญเปลี่ยนแปลงเป็น:
อันดับความสำคัญ:
- นวัตกรรมทางการศึกษา (PNImodified = 1.17)
- การวิเคราะห์ข้อมูล (PNImodified = 0.58)
- เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล (PNImodified = 0.48)
- การสรุปผลการวิจัย (PNImodified = 0.45)
- การเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน (PNImodified = 0.43)
- การระบุปัญหาและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา (PNImodified = 0.42)
- การทบทวนวรรณกรรม (PNImodified = 0.40)
การตีความและการนำไปใช้
ข้อสังเกตสำคัญ
- ความแตกต่างของผลลัพธ์: การใช้สูตร PNI และ PNImodified ให้ผลการจัดลำดับความสำคัญที่แตกต่างกัน ทำให้นักวิจัยต้องพิจารณาเลือกใช้สูตรที่เหมาะสมกับบริบทการวิจัย
- ความสำคัญของนวัตกรรมทางการศึกษา: ทั้งสองวิธีให้ผลสอดคล้องกันว่า “นวัตกรรมทางการศึกษา” เป็นประเด็นที่มีความต้องการจำเป็นสูงสุด
- การให้น้ำหนักความสำคัญ: ผลการวิเคราะห์ช่วยให้นักวิจัยสามารถจัดสรรเวลาและทรัพยากรในการพัฒนาหลักสูตรได้อย่างเหมาะสม
การประยุกต์ใช้ในการพัฒนา
จากผลการวิเคราะห์ นักวิจัยสามารถ:
- เลือกพัฒนาเฉพาะประเด็นสำคัญ: เน้นไปที่ประเด็นที่มีค่า PNI สูงสุด
- พัฒนาครบทุกประเด็น: โดยให้น้ำหนักความสำคัญตามค่า PNI ที่วิเคราะห์ได้
- จัดสรรเวลาฝึกอบรม: มากน้อยตามลำดับความสำคัญ
- ออกแบบเนื้อหาหลักสูตร: เน้นหนักในเรื่องที่มีความต้องการจำเป็นสูง
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
ความสำคัญของการออกแบบการวิจัย
การสำรวจความต้องการจำเป็นจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ต้องอาศัย:
- การออกแบบกลุ่มตัวอย่าง: ที่มีความเป็นตัวแทนที่ดีของประชากร
- การออกแบบเครื่องมือ: ที่มีคุณภาพตามหลักวิชาการ โดยใช้แบบสอบถามแบบ dual-response format
- การออกแบบการวิเคราะห์ข้อมูล: ที่ถูกต้องและเหมาะสม
ประโยชน์ของการใช้วิธี PNI
- ให้ข้อมูลที่ชัดเจน: เกี่ยวกับสภาพที่เป็นจริง สภาพที่ควรจะเป็น และความต้องการจำเป็น
- จัดลำดับความสำคัญ: ช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
- แนวทางการพัฒนา: ให้ข้อมูลสำหรับการสร้างและพัฒนานวัตกรรมในระยะถัดไป
บทสรุป
วิธีการประเมินความต้องการจำเป็นด้วย PNI และ PNImodified เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างฐานข้อมูลสำหรับการวิจัยและพัฒนา การเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับบริบทและวัตถุประสงค์ของการวิจัย ทั้งนี้ ความสำเร็จของการประเมินความต้องการจำเป็นขึ้นอยู่กับการออกแบบการวิจัยที่ดี การสร้างเครื่องมือที่มีคุณภาพ และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างและพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างข้อคำถาม
ข้อคำถามสำหรับการประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู
คำชี้แจง
แบบสอบถามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู กรุณาให้คะแนนในแต่ละข้อโดยพิจารณา 2 มิติ ดังนี้:
มิติที่ 1: ความสำคัญ (สภาพที่ควรจะเป็น)
มิติที่ 2: สภาพปัจจุบัน (สภาพที่เป็นจริง)
เกณฑ์การให้คะแนน
- 5 = มากที่สุด
- 4 = มาก
- 3 = ปานกลาง
- 2 = น้อย
- 1 = น้อยที่สุด
ส่วนที่ 1: ข้อมูลทั่วไป
- เพศ: □ ชาย □ หญิง
- อายุ: _____ ปี
- ประสบการณ์การสอน: _____ ปี
- วุฒิการศึกษา: □ ปริญญาตรี □ ปริญญาโท □ ปริญญาเอก
- สาขาวิชาเอก: _________________
ส่วนที่ 2: การประเมินความต้องการจำเป็น
1. การระบุปัญหาและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
ข้อคำถาม | ความสำคัญ<br>(ควรจะเป็น) | สภาพปัจจุบัน<br>(เป็นจริง) |
---|---|---|
1.1 การสังเกตและบันทึกปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนอย่างเป็นระบบ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
1.2 การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาจากหลากหลายมุมมอง | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
1.3 การกำหนดปัญหาวิจัยที่ชัดเจนและสามารถแก้ไขได้ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
1.4 การตั้งคำถามวิจัยที่สอดคล้องกับปัญหาที่ระบุ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
2. การทบทวนวรรณกรรม
ข้อคำถาม | ความสำคัญ<br>(ควรจะเป็น) | สภาพปัจจุบัน<br>(เป็นจริง) |
---|---|---|
2.1 การค้นหาข้อมูลและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
2.2 การประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
2.3 การสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
2.4 การเขียนบททบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
3. นวัตกรรมทางการศึกษา
ข้อคำถาม | ความสำคัญ<br>(ควรจะเป็น) | สภาพปัจจุบัน<br>(เป็นจริง) |
---|---|---|
3.1 การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นนวัตกรรม | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
3.2 การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
3.3 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่สร้างสรรค์ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
3.4 การประยุกต์ใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
3.5 การปรับปรุงนวัตกรรมตามผลการประเมิน | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
4. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ข้อคำถาม | ความสำคัญ<br>(ควรจะเป็น) | สภาพปัจจุบัน<br>(เป็นจริง) |
---|---|---|
4.1 การสร้างแบบสอบถามที่มีคุณภาพ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
4.2 การออกแบบแบบสัมภาษณ์ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
4.3 การพัฒนาแบบสังเกต | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
4.4 การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
4.5 การตรวจสอบความตรงและความเชื่อมั่นของเครื่องมือ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
5. การวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อคำถาม | ความสำคัญ<br>(ควรจะเป็น) | สภาพปัจจุบัน<br>(เป็นจริง) |
---|---|---|
5.1 การใช้สถิติพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูล | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
5.2 การใช้สถิติอนุมานอย่างเหมาะสม | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
5.3 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
5.4 การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูล | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
5.5 การตีความผลการวิเคราะห์อย่างถูกต้อง | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
6. การสรุปผลการวิจัย
ข้อคำถาม | ความสำคัญ<br>(ควรจะเป็น) | สภาพปัจจุบัน<br>(เป็นจริง) |
---|---|---|
6.1 การสรุปผลการวิจัยที่สอดคล้องกับคำถามวิจัย | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
6.2 การอภิปรายผลการวิจัยโดยเชื่อมโยงกับทฤษฎี | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
6.3 การเสนอข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
6.4 การระบุข้อจำกัดของการวิจัย | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
6.5 การเสนอแนะแนวทางการวิจัยในอนาคต | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
7. การเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน
ข้อคำถาม | ความสำคัญ<br>(ควรจะเป็น) | สภาพปัจจุบัน<br>(เป็นจริง) |
---|---|---|
7.1 การเขียนบทคัดย่อที่สื่อสารได้ชัดเจน | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
7.2 การเขียนบทนำที่นำเข้าสู่ปัญหาได้อย่างต่อเนื่อง | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
7.3 การนำเสนอวิธีดำเนินการวิจัยอย่างละเอียด | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
7.4 การนำเสนอผลการวิจัยด้วยตารางและกราฟ | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
7.5 การอ้างอิงและจัดทำบรรณานุกรมตามรูปแบบมาตรฐาน | 5 4 3 2 1 | 5 4 3 2 1 |
ส่วนที่ 3: ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
- ท่านมีปัญหาหรือข้อจำกัดใดในการทำวิจัยในชั้นเรียน
- ท่านต้องการให้มีการพัฒนาด้านใดเป็นพิเศษ
- ข้อเสนอแนะอื่นๆ
ขอบคุณสำหรับความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม
หมายเหตุสำหรับผู้วิจัย
การคำนวณค่า PNI
PNI = (I - D) × I
โดย I = ค่าเฉลี่ยของความสำคัญ
D = ค่าเฉลี่ยของสภาพปัจจุบัน
การคำนวณค่า PNImodified
PNImodified = (I - D) / D
โดย I = ค่าเฉลี่ยของความสำคัญ
D = ค่าเฉลี่ยของสภาพปัจจุบัน
การแปลผล
ค่า PNI หรือ PNImodified ที่สูงกว่า แสดงถึงความต้องการจำเป็นที่มากกว่า และควรได้รับการพัฒนาเป็นอันดับแรก
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.