มีเวลาว่างแค่ชั่วโมงเดียว ก็สร้างธุรกิจของตัวเองได้! จิ๊กซอว์แห่งการเป็นเจ้าของชีวิต

ชั่วโมงเดียวนี่แหละ! พลิกชีวิตได้มากกว่าที่คิด (แต่ไม่ต้องพลิกคว่ำโต๊ะทำงานก็ได้นะ)

ลองนึกภาพดูดิ…

ตื่นเช้ามา หน้ายังบวมๆ ผมยังเป็นรังนก เมื่อคืนนอนดึกเพราะดูซีรีส์จนตาค้าง (ใครเหมือนกันบ้างยกมือขึ้น!) อากาศหนาวจนต้องกอดผ้าห่ม แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด… เพราะต้องรีบไปทำงาน เดี๋ยวเจ้านายเห็นเข้าประตูช้า จะได้หน้าแตกกันพอดี

แล้วบนรถไฟฟ้าที่แออัดจนแทบจะหายใจไม่ออก คนอื่นทำอะไรกัน?

คนข้างๆ เล่นเกมตีหัวกระสุนยิงซอมบี้ เสียงดังปังๆ (ไม่ใส่หูฟังด้วยนะ)

คนตรงข้ามก็หลับปุ๋ย น้ำลายไหลยืด (เอ๊ะ! นั่นมันเพื่อนเราหรือเปล่า?)

แต่คุณรู้มั้ย?

มีคนคนนึงที่ใช้เวลา 36 นาทีบนรถไฟฟ้ากำลังทำอะไร? เขากำลังพิมพ์นิ้วปลิวๆ ลงคอมพ์ เหมือนกำลังแชทกับแฟนเร่งด่วน แต่จริงๆ แล้วเขากำลังสร้างอาณาจักรของตัวเองต่างหาก!

นี่แหละชีวิตจริงของ Michael Lim คนที่รู้จักชิงเวลาที่คนอื่นปล่อยให้หายไปกับสายลม เปลี่ยนให้กลายเป็นเงินในกระเป๋า ไม่ใช่เพราะเขาเป็นพระเอกหนังมาร์เวล หรือมีพลังวิเศษอะไร แต่เพราะเขารู้จักใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวให้คุ้มค่านั่นเอง!

วันนี้ เราจะมาดูกันว่า ถ้าคุณมีเวลาแค่วันละชั่วโมง จะลงทุนยังไงให้คุ้ม เหมือนซื้อหวยแล้วถูกรางวัลที่หนึ่ง! (แต่ไม่ต้องง้อดวง ใช้ความขยันล้วนๆ)

1. ปรับตัวกับข้อจำกัด: ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ไม่ใช่ทุกคนฉลาดใช้!

ชีวิตเรามีข้อจำกัดเยอะแยะเต็มไปหมด งานประจำกินเวลา 8 ชั่วโมง (บวกล่วงเวลาไม่มีค่าตอบแทนอีก 2 ชั่วโมง) ยังไม่รวมเวลากว่าจะถึงบ้านเหมือนเดินทางไปต่างจังหวัด พอกลับถึงเตียงนอนก็แทบจะสลบคาหมอน ร่างกายอ่อนระโหยแบบเหมือนเพิ่งวิ่งมาราธอนเสร็จ

แต่ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่สิ! แทนที่จะคิดว่า “โอ๊ย ฉันไม่มีเวลาเลย” ลองคิดซะใหม่ว่า “เฮ้! ฉันมีเวลา 1 ชั่วโมงที่มีค่า” แล้วลองทำแบบ Lim ดูบ้าง:

เคล็ดลับสุดเจ๋ง:

ค้นหาช่วงเวลาที่สมองปลอดโปร่งที่สุด (ไม่ใช่ตอนกำลังง่วงจนตาปิดแบบอัตโนมัติ) เช่น ตอนเช้า หรือระหว่างเดินทาง แล้วทำงานที่สำคัญในช่วงนั้น
Lim เลือกเขียนตอนเช้าเพราะรู้ว่า พอเลิกงานสมองจะเหมือนสลัดผักที่ถูกอบแห้ง ไม่มีความสดใส (คนทำงานเข้าใจกันใช่ไหม?)
ส่วนใครเป็นสายกลางคืน ก็จัดไป ไม่ต้องฝืน แค่รู้ตัวเองดีที่สุดว่า คุณทำงานได้ดีช่วงไหน

บทเรียนสุดพีค:

“ทุกชั่วโมงก่อน 9 โมงเช้า มีค่าเท่ากับสองชั่วโมงหลัง 5 โมงเย็น!”

อันนี้ไม่ได้โม้นะเพื่อน ลิมไม่ได้โกหก แค่คิดดู… ตอนเช้า สมองเราสดใสเหมือนผักสลัดเพิ่งล้างน้ำ แต่พอเย็น สมองเราเหมือนผักชีที่ลืมในตู้เย็น 3 วัน แห้งเหี่ยวจนน่าใจหาย ใครเคยเจอบ้างยกมือ!

2. เริ่มเล็กๆ แต่ต้องสม่ำเสมอ: อย่ารอให้เพอร์เฟค ไม่งั้นรอจนหงอก!

“ไม่มีเวลาอ่ะ” เป็นข้ออ้างที่หลายคนใช้ (รวมถึงเราเอง) แต่จริงๆ ลองตั้งเป้าหมายง่ายๆ ให้ตัวเอง ทำแค่วันละนิดหน่อย แต่ทำทุกวันไม่มีข้ออ้าง

เคล็ดลับกันแบบเพื่อนซี้:

เริ่มจากทำอะไรง่ายๆ กำลังดีก็พอ เช่น เขียนไอเดียธุรกิจแค่ 10 นาที
อย่ากดดันตัวเองเกินไป เดี๋ยวจะเครียดจนผมร่วง (ใครที่ผมร่วงอยู่แล้ว ขอให้ทำใจ)
ลองตั้งเป้าหมายแบบสนุกๆ เช่น “วันนี้ฉันจะดูคลิปความรู้ 2 คลิป แทนการสอยแคนดี้ครัช 100 ด่าน”

บทเรียนที่เจ๋งสุด:

“ไม่ต้องทำให้เพอร์เฟค แค่เริ่มทำมันขึ้นมาก็ชนะแล้ว”

เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เริ่มสักที รอให้พร้อม รอให้ว่าง รอให้รวย รอจนแก่ตาย ก็ไม่ได้ทำสักที

เหมือนคนอยากมีซิกแพค แต่ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากนอนกินชิปตอนดูหนังตลอด 3 ปี (เราไม่ได้พูดถึงตัวเองนะเนี่ย…)

3. ใช้เวลาเน่าๆ ให้เกิดประโยชน์: พลิกช่วงรอคอยให้คุ้มค่าเหมือนหวยถูกรางวัล!

ลองนึกดู… ตอนรอเพื่อนสาย 30 นาทีที่ร้านอาหาร (ทุกคนมันมีเพื่อนแบบนี้แหละ) คุณจะทำอะไร?

คนส่วนใหญ่ก็เลื่อนเฟซบุ๊ก ส่อง IG แฟนเก่า ดูคนอื่นเที่ยวต่างประเทศแล้วอิจฉา นั่งกดถูกใจรูปทั้งๆ ที่ในใจกำลังแอบกรี๊ดว่า “เฮ้ย! เมื่อไหร่จะรวยแบบนี้บ้าง!”

แต่ Lim กลับใช้เวลาพวกนี้แบบสุดคุ้ม!

วิธีใช้เวลาแบบคนฉลาด:

ตอนนั่งรถไฟฟ้า: เขียนบทความ (แทนที่จะนั่งกดรายงานแอคเฟคที่มาปล่อยน้ำหอมใส่ทั้งตู้)
ตอนรออาหาร: ร่างไอเดียธุรกิจ (แทนที่จะถ่ายรูปอาหารเพื่อนที่มาสาย แล้วแกล้งกินไปครึ่งจาน)
ระหว่างเดินทางไกล: วางแผนธุรกิจ (แทนที่จะดูหนังที่เราดูซ้ำไปแล้ว 10 รอบ)

บทเรียนกวนๆ แต่จริง:

“ในขณะที่คนอื่นกำลังเลื่อนดูบ้านคนอื่นราคา 20 ล้าน แล้วอิจฉา คุณสามารถใช้เวลานั้นวางแผนซื้อบ้านตัวเองได้”

เพื่อนเอ๊ย อย่าเสียเวลาไปกับการส่องชีวิตคนอื่น แล้วทำหน้าเศร้าเหมือนหมาถูกทิ้ง มาใช้เวลาสร้างอนาคตตัวเองดีกว่า!

4. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน: อย่าปล่อยให้ชีวิตล่องลอยเหมือนเมฆในท้องฟ้า!

การตั้งเป้าหมายไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่แบบ “จะเป็นเศรษฐีภายใน 3 เดือน” หรือ “จะสร้างแอพฯ แข่งกับ Facebook” (ถ้าเป็นไปได้ก็เยี่ยมนะ แต่ไม่ต้องรีบร้อน)

เริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ ก่อน:

เป้าหมายที่ทำได้จริง:

เขียนบทความทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง (แทนที่จะตั้งเป้าว่าจะเขียนเป็นโจ โรว์ลิ่ง ภายใน 1 เดือน)
เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ สัปดาห์ละ 3 วัน (อย่าตั้งเป้าว่าจะเรียนจบ 10 คอร์สใน 1 สัปดาห์)
สร้างงานอดิเรกให้กลายเป็นรายได้เสริม (ไม่ต้องรอให้มันเป็นบริษัทยูนิคอร์นมูลค่าหมื่นล้าน)
โพสต์คอนเทนต์บนโซเชียลอย่างสม่ำเสมอ (แทนที่จะโพสต์ทีนึงตอนอารมณ์ดี แล้วหายไป 3 เดือน)

บทเรียนสุดเจ๋ง:

“การทำสิ่งเล็กๆ ทุกวัน เหมือนหยอดเหรียญวันละบาท สุดท้ายมันจะกลายเป็นเงินก้อนโต”

เหมือนการกินข้าวมื้อเดียวไม่ทำให้อ้วน แต่กินทุกวันเมื่อไหร่… พุงก็จะป่องออกมาทักทาย! (เอ๊ะ อันนี้ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเท่าไหร่ แต่เข้าใจใช่ไหมล่ะ?)

ชั่วโมงเดียวต่อวัน = ความสำเร็จในระยะยาว

สุดท้ายนี้ ถ้าคุณมีเวลาแค่วันละชั่วโมง อย่าเพิ่งท้อ! คิดซะว่า คุณมีเวลา 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 30 ชั่วโมงต่อเดือน และ 365 ชั่วโมงต่อปี

คิดดูสิว่าคุณจะสร้างอะไรได้ในเวลา 365 ชั่วโมง? มันเท่ากับการทำงานเต็มเวลาเกือบ 10 สัปดาห์เลยนะ!

จริงไหมล่ะที่ว่า “ทุกนาทีที่คุณลงทุนให้กับอนาคต คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต”

อย่ารอให้ถึงจุดที่คุณจะต้องนั่งเสียใจ แล้วถามตัวเองว่า “ถ้าฉันเริ่มต้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ป่านนี้จะเป็นยังไงนะ?”

เริ่มวันนี้! ใช้เวลาชั่วโมงต่อไปนี้ให้คุ้มค่า แล้วในอีก 6 เดือน คุณจะได้ขอบคุณตัวเองที่เริ่มต้น

อย่ารอคอยเวลาที่เหมาะสม เพราะเวลาที่ดีที่สุดคือ… ตอนนี้! (ใช่ ตอนที่คุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่นี่แหละ)

พร้อมจะเปลี่ยนชีวิตด้วยชั่วโมงวันละชั่วโมงแล้วหรือยัง?

Discover more from KruJakkrapong 's Blog

Subscribe to get the latest posts sent to your email.