ช่วงนี้ผมกลับบ้านเกือบทุกสัปดาห์ บ้านของผมอยู่ที่สกลนครครับ เป็นอำเภอเล็กๆ ชื่อว่า อำเภอคำตากล้า ผมเกิดและเติบโตที่นี่ก่อนที่จะมาอยู่ขอนแก่นเพื่อทำงานจนกระทั่งปัจจุบัน
เหตุผลที่ได้กลับบ้านบ่อยเพราะ ต้องกลับไปดูแลลูกชายตัวน้อยอายุ 7 เดือนของผมครับ ต้องเอาไปอยู่กับปู่ และย่า ชั่วคราวก่อนเพราะไม่มีคนดูแลช่วยทางนี้ เราสองสามีภรรยา ต่างก็มีหน้าที่ต้องสอนนักเรียนเช่นกัน
ชีวิตของเราสองคน ช่วงนี้จึงเปลี่ยนไปพอสมควรครับ เราต้องเตรียมตัวเดินทางไกล ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง เพื่อไปหาลูกและใช้เวลาอยู่กับลูก 2 วัน
ผมเลือกที่จะพยายามทำงานให้เสร็จตั้งแต่ 4 วันเพื่อจะใช้เวลาเต็มที่กับลูกอีก 2 วันให้เต็มที่ อยู่กับเขา เล่นกับเขา ให้ความอบอุ่น และถือโอกาสได้ไปอยู่กับพ่อและแม่เป็นครอบครัวใหญ่กัน กินข้าวด้วยกัน
ที่บ้านหลังนี้จากที่ผมไม่ค่อยได้กลับ ช่วงนี้พอได้กลับบ่อยๆ ก็เริ่มจะเห็นว่า บ้านมีส่วนที่ชำรุดอยู่หลายจุดเหมือนกัน ลำพังคนแก่สองคนอยู่บ้าน ไม่มีเครื่องมือพอจะซ่อมแซมได้ ผมเป็นคนมีเครื่องมือช่างอย่าง สว่าน กล่องอุปกรณ์ น็อต สกูร ทำให้ผมสามารถซ่อมแซมบ้านเล็กๆ น้อยๆ ได้
มาถึงจุดที่ต้องซ่อมแซมแล้ว เมื่อผมเห็นท่อระบายในห้องน้ำตัน ผมลงทุนไปซื้อที่ดูดแบบสุญญากาศมาดูดแต่ก็ไม่เป็นผล ลงทุนขุดดูท่อน้ำด้านล่าง แต่ไม่กล้าขุดเยอะเพราะกลัวจะไปขุดเอาส่วนอื่นๆ ของท่อแล้วจะเสียหาย แต่น้ำก็ยังตันท่ออยู่ดี
สัปดาห์ถัดมา ผมจึงนำเอาสว่านไปเจาะกำแพงจากห้องน้ำออกด้านนอก เพื่อจะต่อท่อออกไปใหม่ระบายน้ำ ผมจึงขับรถยนต์ไปอำเภอเพื่อซื้อท่อน้ำ เมื่อไปถึงร้านค้าขายอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ผมก็อธิบายว่าผมต้องการทำอะไร แต่รถของผมเป็นรถเก๋งคงเอาท่อใส่ไม่ได้ ผมจึงขอให้ช่างตัดท่อให้เหลือครึ่งหนึ่ง
ผู้ช่วยของเจ้าของร้านเป็นชายอายุค่อนข้างแก่คนหนึ่ง ไปหยิบท่อมาแล้วก็ตัดให้เหลือครึ่งหนึ่ง ตอนนั้นคนในร้านเยอะมาก ผมนึกขึ้นได้ว่า อาจจะต่อท่อออกมาจากกำแพงแล้วเลี้ยวลงพื้น จึงอยากได้ข้อต่อของท่อแบบหักเก้าสิบองศา จึงบอกว่าเอาข้อต่อด้วยนะครับ
ผู้ช่วยก็เดินไปหยิบมาเป็นข้อต่อตรง เมื่อผมเห็นดังนั้นก็เลยบอกว่า ผมเอาข้อต่องอ แต่ชายแก่คนนั้นบอกว่า ทำไมไม่บอกเป็นข้อต่องอ ทำไม่บอกข้อต่อตรง แล้วส่ายหน้าแบบเสียอารมณ์อย่างมาก จึงเดินไปเอาหยิบข้อต่องอมาให้ผม ท่ามกลางความมึนงงของผมนิดๆ
มาถึงตรงนี้ จึงสรุปเป็นคำถามในใจของผมเล็กๆ ว่า
ทำไมคนขายอารมณ์เสียง่ายจัง งานบริการทำไมไม่พูดดีๆ เอาใจลูกค้าสักหน่อย จริงอยู่ที่ผมผิดที่บอกไปว่า ข้อต่อ ไม่ได้ระบุว่า ตรงหรืองอ แต่สุดท้ายเลือกเอาข้อต่องอ ทำให้คนขายอารมณ์เสียที่ไปหยิบผิดมา
อีกอย่าง ณ ขณะที่ตัดท่อ ชายแก่คนนั้นก็ตัดแบบไม่ได้ดูว่าท่อจะไปโดนใคร เพราะแกตัดแล้วท่อเกือบจะมาทิ้มหน้าผมเข้าให้ แต่ดีที่ลูกชายของคนขายหยิบออกทัน เลยไม่โดน
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมากครับ จริงๆ แล้วผมไม่ได้อยากเอามาคิดให้รกสมอง แต่การเขียนบล็อกครั้งนี้ ผมฝึกพิมพ์จากเครื่องคอมของภรรยาผม ผมคิดหาเรื่องมาเขียนไม่ค่อยออก ก็เลยลองหยิบหยกเรื่องนี้มาเขียน
เรื่องเริ่มต้นเรื่องจากความสุขในครอบครัว แต่จบด้วยความเศร้านิดๆ ปนเสียอารมณ์หน่อยๆ แต่ไม่ได้ติดใจอะไรกับร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งนั้นนะครับ ผมก็แค่คิดว่า การขายของคือการบริการ การบริการควรใส่ใจลูกค้าให้ดีที่สุด แม้ว่าเขาจะมาใช้บริการแค่ครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวก็ขอให้เป็นครั้งที่มีความสุขก็แล้วกัน
Discover more from KruJakkrapong 's Blog
Subscribe to get the latest posts sent to your email.